สำหรับคอไวน์คงคุ้นชินกับคำว่า Aroma กับ Bouquet กันมาบ้างแล้ว แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ หรือไม่แน่ใจในความหมาย Universal Fine Wine & Spirits จะพาคุณไปรู้จัก 2 คำนี้ ที่มีความหมายคล้ายกัน แต่ไม่เหมือนกันนั่นคือกลิ่นที่เป็นอัตลักษณ์บอกถึงความเป็นมาของไวน์ในมือคุณค่ะ
Aroma (Primary Aromas)
เป็นกลิ่นของไวน์ที่ได้มาจากองุ่น ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีกลิ่นที่แตกต่างกันไป โดยจะเรียกว่าเป็นกลิ่นหลักมักจะเป็นกลิ่นผลไม้ กลิ่นสมุนไพร และกลิ่นดอกไม้ ตัวอย่างเช่น Cabernet Sauvignon มักจะให้กลิ่นของราสเบอร์รี่ พริกไทยอ่อน บางครั้งก็จะเป็นกลิ่นดอกไวโอเล็ต
Bouquet (Secondary and Tertiary Aromas)
Bouquet ที่ได้จากการหมัก (Secondary Aromas) เป็นกลิ่นที่ได้จากกระบวนการหมักไวน์ซึ่งจะเปลี่ยนน้ำตาลในองุ่นเป็นแอลกอฮอล์โดยจะมีความสัมพันธ์กับยีสต์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Saccharomyces cerevisiae ซึ่งมีความจำเป็นในการทำไวน์ ทำขนมอบ และหมักเบียร์ มาอย่างยาวนาน กระบวนการหมักทำให้เกิดกลิ่นทุติยภูมิหรือกลิ่นรอง เช่น กลิ่นขนมปังอบใหม่ โยเกิร์ต เนย
Bouquet ที่ได้จากการบ่ม (Tertiary Aromas)
องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในการบ่มไวน์คือ การทำให้ไวน์สัมผัสกับออกซิเจน ในปริมาณเล็กน้อย ก็จะทำให้ได้กลิ่นอย่างเฮเซลนัท ถั่วลิสงคั่ว การใช้ถังไม้โอ๊คซึ่งมีหน้าที่คือ ช่วยเติมออกซิเจนอย่างช้าๆ ให้กับไวน์ และเพิ่มสารประกอบกลิ่นหอมที่พบในไม้โอ๊คอย่างเช่นกลิ่นของวานิลลา ซึ่งได้จากการบ่มไวน์ในถังไม้โอ๊คใหม่การปรุงไวน์โดยเจตนา ด้วยปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างกรดอะมิโนและน้ำตาล เรียกว่า ปฏิกิริยา Maillard ทำให้เกิดกลิ่นของคาราเมล แยมผิวส้ม ทอฟฟี่
#UniversalFineWineAndSpirits #UFWS #Wine #ไวน์ #ไวน์นำเข้า
อ้างอิง
https://winescribble.com/tertiary-aromas-in-wine/
https://winefolly.com/.../tips-on-tasting-wine-bouquet.../
.................................................................................................................................................................................................................................................................................
